หน้า 2 จากทั้งหมด 3

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 29 ม.ค. 2008, 20:25
โดย PRACHASAN
ไม่ได้เข้ามาอ่าน webboard มีการตั้งคณะเภสัชแห่งใหม่ เหรอครับ... ยังงี้ต้องเข้ามาอ่านบ่อยๆ แล้ว กลัวจะตามข่าวไม่ทัน...
เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องของ กระบวนท่า ของวิชาชีพ ... ที่ต้องขยับไปพร้อมๆ กัน ทั่วทั้งประเทศ ไม่อย่างนั้นแล้ว ...? เวลาของการพัฒนาสู่การเหลือเพียง อาชีพเภสัชกร ก็จะมาถึงเร็วกว่ากำหนด จากแต่เดิม การเป็น วิชาชีพเภสัชกร -----> อาชีพเภสัชกร ... ผมเสนอให้ประเด็นต่างๆ เหล่านี้ ถูกนำเสนอเข้าเวที สมัชชาวิชาชีพ ... ซึ่งควรจะมีการจัดทุกปี ... เพื่อเป็นเวทีของความคิด ไม่ใช่เวทีของการนำเสนอผลงานวิชาการ งานวิจัย แต่มันต้องเป็นเวทีของความคิด เวทีของการกำหนดทิศทางเพื่ออนาคต ของวิชาชีพที่จะไปสนับสนุนการดูแลสุขภาพตนเองของประชาชน...

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 29 ม.ค. 2008, 23:50
โดย เภสัชกรน้ำเค็ม
หมูน้อย เขียน:สภาเภสัชกรรมควรจะออกข่าว เตือนนักเรียนที่สมัครเรียนด้วยนะครับ
อย่างน้อยก็แจ้งว่า จบแล้วต้องสอบเพื่อรับใบประกอบเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมก็ยังดี
เพราะนักเรียนหลายคนเข้าใจผิดว่าจบแล้วก็เปิดร้านยาได้เลย

รับไปประสานให้นะครับ

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 30 ม.ค. 2008, 09:15
โดย นิวัช
เด็กหนีเรียนหมอ สละแพทย์ถึง25%   

 
ปัญหาในวงการแพทย์ที่นานวันยิ่งวิกฤตินี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ถึงการฟ้องร้องแพทย์ในคดีอาญา ว่า ขณะนี้กำลังเกิดวิกฤติอย่างมากในวงการแพทย์ แพทย์ใน รพ.ชุมชนไม่ยอมทำผ่าตัด แต่ใช้วิธีส่งต่อคนไข้ ทั้งหมด เพราะเกิดความกลัว เรื่องเล็กกำลังจะเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งคนที่เป็นแพทย์กับไม่ได้เป็นแพทย์จะคิดต่างกัน เช่น คนไข้มาพบแพทย์ทั้งๆที่ยังแข็งแรงแล้วเกิดเสียชีวิตก็จะคิดว่าทำไมถึงตาย ก็แข็งแรงดี แต่สิ่งที่ชาวบ้านไม่รู้ก็คือ คนที่ดูสมบูรณ์แข็งแรง ไวรัสชอบเพราะมีอาหารให้มันกิน ให้มันแบ่งตัว คนผอมๆดูขี้โรค ไวรัสมันไม่ สนใจเพราะไม่มีอาหาร มันแบ่งตัวไม่ได้ ตรงนี้ชาวบ้านไม่เข้าใจ ที่น่าตกใจคือขณะนี้เด็กที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ สละสิทธิประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่มีการแก้ไขปัญหา อนาคตผลกระทบจะตกกับประชาชน 
?ทุกวันนี้แพทย์มีเวลาในการตรวจคนไข้มากที่สุด คือ 3 นาที บาง รพ. มีหมอ 2 คน คนไข้วันละ 200 คน ทั้งตรวจ รักษา ผ่าตัด ทำหมด บางครั้งทำงานติดต่อกัน 24-36 ชั่วโมง มันล้าแล้ว ในอเมริกามีกฎออกมาแล้วว่าให้แพทย์ทำงานได้ไม่เกิน 10 ชั่วโมงต่อวัน ในออสเตรเลียประมาณ 16 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นเสี่ยงมาก? ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าว และว่าล่าสุดมีสถิติพบว่า แพทย์มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เพราะการนอนไม่พอถึง 6 เท่า ซึ่งการเสียชีวิตของแพทย์อันดับ 3 คือ อุบัติเหตุรถชน รถคว่ำ

นายกแพทยสภายังกล่าวด้วยว่า ที่น่าเป็นห่วงอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การปกปิดข้อมูลของคนไข้ ที่คิดว่าหมอ ต้องรู้ บางครั้งคนไข้ไม่บอก หมอก็ไม่รู้ เช่น มีอยู่รายหนึ่ง คนไข้ไปทำแท้งมาแล้วไม่บอกหมอ มาด้วยอาการไข้ขึ้น ติดเชื้อ หมอก็ไม่รู้ ก็ให้ยาฆ่าเชื้อ ยาลดไข้ไป ผลสุดท้ายมีปัญหาเรื่องมดลูก แต่ไม่บอก หมอจะไปรู้ได้อย่างไร อีกรายคนไข้มาพบหมอ บอกไม่ค่อยสบาย วัดความดันปกติ แพทย์ก็ไม่ได้สงสัย ปรากฏว่าคนไข้เป็นความดันโลหิตสูง กินยาคุมความดันไว้ ความดันก็ไม่ขึ้น แต่ไม่บอกแพทย์ เพราะฉะนั้นคนไข้เองก็ต้องให้ความร่วมมือด้วย ไม่ควรปกปิดข้อมูล และขณะนี้ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติมีผลบังคับใช้ ถ้าคนไข้ไม่เปิดเผยข้อมูลทั้งหมด เมื่อเกิดความผิดพลาด ผู้ให้บริการถือว่าไม่มีความผิด ตรงนี้ประชาชนจำนวนมากยังไม่รู้ 

ด้าน ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กุสลานันท์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ปีนี้เป็นปรากฏการณ์เด็กที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ศิริราช ต้องเรียกให้มารายงานตัวถึง 3 รอบ ถึงจะครบจำนวนที่เปิดรับ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขเองก็เป็นกังวล เพราะแพทย์ของสธ.ที่ต้องใช้ ทุน 2 ปี กว่าครึ่งใช้ทุนแค่ปีเดียวก็ลาออก หาเงินมาใช้ แทนแล้วไปอยู่ รพ.เอกชน เพราะไม่อยากทำงานใน รพ. ชุมชน บางคนเลือกไปเรียนแพทย์ในสาขาที่ไม่เสี่ยง อย่างผิวหนัง, จักษุ ได้เงินมาก ไม่เสี่ยงเหมือนหมอผ่าตัดตรงนี้น่าเป็นห่วง ยังไม่รวมคดีแพ่งที่ฟ้องร้องแพทย์ของ สธ.ซึ่งยังอยู่ในศาลเฉพาะที่นนทบุรี 65 คดี นอกจากนี้ยังมีคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวนว่าจะฟ้องหรือไม่ และระหว่างไต่สวนมูลฟ้องของศาลอีกจำนวนหนึ่ง 

เลขาธิการแพทยสภากล่าวว่า แพทยสภาเตรียมที่จะเสนอกฎหมาย พ.ร.บ.ความรับผิดและวิธีพิจารณาความสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ซึ่งติดค้างมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วต่อรัฐบาลใหม่ ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าจะผ่านหรือไม่ หากไม่ผ่านแพทยสภาได้เตรียมหาวิธีการอื่น เช่น เสนอรายชื่อ 10,000 ชื่อ เพื่อเสนอกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อให้มีกฎหมายคุ้มครองทั้งแพทย์และประชาชน เพื่อที่แพทย์ก็จะได้ทำงานรักษาคนไข้ด้วยความสบายใจ มีจิตวิญญาณที่จะรักษาคนไข้อย่างแท้จริง คนไข้ก็สบายใจที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับการรักษาที่ดีพอ


ปล ชอบหมอสมศักดิ์นะ แกเข้าใจสร้างภาพ สร้างข่าวมากๆ เยี่ยมจริงๆ แพทย์สภา

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 30 ม.ค. 2008, 09:32
โดย นิวัช
ยังดีหน่อย
เมื่อเช้า รายการ ผู้หญิงถึงผู้หญิง
เอา สกู๊ป ดร.กฤษณา มาออกรายการนะ
ดีใจ
เภสัชกร ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของเอเชีย

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 30 ม.ค. 2008, 11:04
โดย apotheker
niwat เขียน:
ปล ชอบหมอสมศักดิ์นะ แกเข้าใจสร้างภาพ สร้างข่าวมากๆ เยี่ยมจริงๆ แพทย์สภา


ผมเห็นกรรมการสภาเภสัชบางท่านจำได้ว่าเป็นนักการตลาดระดับมือทอง น่าจะนำความรู้ความสามารถมาใช้เพื่อวิชาชีพเราบ้างก็ดีนะครับ :wink:

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 09 ก.พ. 2008, 15:32
โดย g4436815
เปิดไปทำไมมากมายใน ม.เอกชน  สู้ไปเปิดเพิ่มใน ม.รัฐบาลที่ยังไม่มีคณะเภสัชดีกว่า เช่น มธ. มก. อย่างน้อยก็เป็นการจำกัดจำนวนได้มากกว่า ม.เอกชน เพราะปัจจุบัน ม.เอกชนก็เปิดใหม่หลายแห่งแล้ว

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 12 ก.พ. 2008, 14:24
โดย mutation
มองในแง่ดี

คิดในแง่บวก+++

:roll:

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 15 ก.พ. 2008, 01:24
โดย Bumzab
ไม่เข้าใจเลย ว่าทำไม ทำไม ทำไม

เด๋วนี้การเป็นเภสัชมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ใครอยากเรียนก็ได้เรียน

ใครอยากรวยด้วยวิชาชีพนี้ก็รวยได้ แล้วหรือ แล้วทำไมคนรุ่นหลังๆ ถึงไม่รวยกันหละ น่าคิด

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 29 ก.พ. 2008, 23:23
โดย suppat tuntiwong
ก็หลักสูตรเภสัชของทุกๆที่ไม่มีมาตราฐานเดียวกันเด็กจบมาขาดจิตสำนึก เภสัชกรรุ่นพี่บางคนทำตัวอย่างให้เห็นว่าเงินเท่านั้นที่แสดงบทบาท บางคนจบมาไล่ตามจับหมอ(หน้าไม่อาย)มีวิชาชีพที่ดีแต่ไม่สามัคคีแสดงอำนาจและบทบาทที่ชัดเจนให้สังคมไทยได้ตระหนัก อีกอย่างเมื่อไรเภสัชกรอยู่เป็นระดับหัวหน้าได้เมื่อนั้นถึงจะเจริญตราบใดที่ยังอยู่ใต้อำนาจหมอ(หัวใจขยะ)ก็คงไม่มีการพัฒนาว่าอย่างนั้นกันไหมค่ะ

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 06 เม.ย. 2008, 08:39
โดย Pharma_Name
แปลกนะครับ  ที่เจ้าของกระทุโพสต์เป็นลิงค์ในการรับสมัคร  แต่พอเข้าไปดูใน web site ของมหาวิทยาลัยกลับไม่พบรายละเอียดของคณะเภสัชศาสตร์เลย  ตกลงเขาเปิดรับแน่หรือเปล่าครับ  ด้วยความอยากรู้นะครับ  ว่าจะโทรไปถามที่มหาวิทยาลัยนะครับ  ได้ความว่าอย่างไรผมจะโพสต์นะครับ

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 06 เม.ย. 2008, 09:40
โดย หมูน้อย
ก็รับสมัครทั้งที่ยังไม่มีที่ตั้งคณะฯเลยไงครับ
ถ้าโทรไปถามแล้วได้ข่าวอย่างไรก็มาแจ้งด้วยนะครับ

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 06 เม.ย. 2008, 19:44
โดย visanu
ยืนยันว่ามีคณะเภสัชศาสตร์ มีอาจารย์ มาจากจุฬาฯ ด้วยครับ รับนักศึกษาแล้ว การที่ท่านทั้งหลายติเตียน ระวังจะไปโดนอาจารย์ที่สอนท่านทั้งหลายมานะครับ เพราะผมเห็นว่าคณะที่เปิดใหม่ ส่วนใหญ่อาจารย์ที่มาเป็นคณบดี ก็มาจากจุฬา หรือ มหิดล เป็นส่วนใหญ่ ส่วนคุณภาพของบัณฑิตซึ่งท่านทั้งหลายกังวลนั้น ผมคิดว่า ถึงตอนสอบใบประกอบวิชาชีพ ก็จะสามารถคัดกรองบัณฑิตได้ เหมือนกับที่คณะนิติศาสตร์ ที่มีอยู่เกือบทุกมหาวิทยาลัย แต่ถ้าจะไปทำงานเป็นผู้พิพากษา ทนายความ ต้องสอบเนติบัณฑิต ผมเห็นว่านักศึกษาที่จบจาก ราม สุโขทัย ประสบความสำเร็จ ไม่แพ้ จุฬา ธรรมศาสร์ ถ้าประเทศเราไม่ให้โอกาส ก็อาจจะไม่มีผู้พิพากษาที่เก่งๆมาจากมหาวิทยาลัยเปิดก็เป็นได้
บัณฑิตเภสัชฯถ้าสามารถสอบใบประกอบวิชาชีพ ท่านก็ไม่น่าจะมากังวลกับคุณภาพ ส่วนการที่ ท่านกังวล ไม่แน่ใจว่า กลัวบัณฑิตจะออกมาแย่งงานกันทำ หรือ ตกงาน ผมว่าท่านทั้งหลาย อย่าเพิ่งวิตกกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เพราะปัจจุบัน ก็ยังไม่เห็นจะมีเภสัชตกงาน มีแต่เลือกงานกันมากกว่า ตอนนี้คงไม่ใช่เวลาที่เราจะมาติเตียนกัน เพราะไม่เกิดประโยชน์ มีแต่จะทำให้เกิดความแตกสามัคคี มัวแต่จะแบ่งว่าเป็นมหาวิทยาลัยนั้น มหาวิทยาลัยนี้ แล้ววิชาชีพของเราจะเจริญได้อย่างไร ลองเปิดใจให้กว้าง ท่านที่คิดว่าบัณฑิตที่จบใหม่มีข้อบกพร่องอย่างไร ผมขออนุญาตแนะนำให้ท่านแนะนำไปที่มหาวิทยาลัยต้นสังกัด ผมว่าน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า ที่จะคิดกันเอาเอง ว่ามหาวิทยาลัยเอกชนที่เปิดมาไม่ดี ต้องเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐถึงจะดี
มีบางความคิดเห็นบอกว่าให้เปิดทุกตำบล ก็ดีนะซิครับ ผมว่าร้านขายยาหมอตี๋ จะได้หมดไปเร็วๆ เราจะได้มาแข่งขันกันให้บริการทางด้านสุขภาพ มากกว่าที่จะต้องมาแข่งกันด้วยเรื่องราคาอันน่าปวดหัว
ที่ post นี่ก็ไม่ได้ติเตียนใครนะครับ เพียงแต่เป็นความคิดเห็นจากสมาชิกซึ่งเป็นเภสัชกรคนหนึ่ง ท่านทั้งหลาย ซึ่งผมคิดว่าก็คงมีวุฒิภาวะ ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ การจะให้ความคิดเห็นใด ที่มีผลต่อผู้อื่น หรือ ส่วนรวม ขอท่านทั้งหลาย โปรดพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าให้อารมณ์ ความรู้สึก มาครอบงำท่านได้

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 06 เม.ย. 2008, 19:57
โดย nhum_nop
คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ก็คือ รศ ปภาวดี คล่องพิทยาพงษ์

ใครที่เรียนเภสัชจุฬา คงจะรู้จักอาจารย์นะครับ อาจารย์ประจำอยู่ที่ภาควิชาสรีรวิทยา ถ้าจำไม่ผิดจะสอนเรื่อง CVS anatomy & physiology ครับ

http://www.eau.ac.th/2005/index.php?men ... =executive

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 07 เม.ย. 2008, 17:53
โดย ruralphar
เอ้า เปิดกันเช้าไป  :lol: :lol: :lol:

Re: คณะเภสัชศาสตร์แห่งใหม่ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย

โพสต์โพสต์แล้ว: 13 เม.ย. 2008, 12:08
โดย ReMieL
มหาวิทยาลัยนี้อยู่ตรงไหนของประเทศไทยเหรอคับ พอดีผมมันบ้านนอก ไม่ค่อยรู้จัก

ดีจังนะครับ อยากเปิดก็เปิดคณะเภสัชเนี่ย จากนั้นก็ติวสอบสภาให้เด็กตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีหกเลย
แหล่งฝึกงานดีๆ มีหรือไม่มีก็ช่างมัน ความรู้แน่นไม่แน่นก็ช่างมัน ติวให้มันสอบสภาได้ก็พอ

ต่อไป ผมว่าเปิดโรงเรียนกวดวิชาสอบสภาเภสัชกรรมน่าจะเวิร์ค