PharmaCafe.com

คือ ผมเตรียมตัวที่จะเอนท์ปีนี้ และกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ Pharm Sci ในเว็บนี้อยู่
แล้วผมก็ได้ไปอ่านกระทู้เกี่ยวหลักสูตรใหม่ ก็เห็นพี่ๆในเว็บนี้คอมเมนท์ไปในเชิงลบซะมากกว่า
ผมก็เลยอยากจะสอบถามพี่ๆในนี้ว่า Pharm Sci ในสายตาของพี่ๆแล้วยังน่าเรียนอยู่ไหมครับ

งานเมืองไทยก็พอมีทำครับเงินเดือนไม่เลว แต่ลำบากตอนไปเรียนต่อเมืองนอกเท่านั้นไม่รู้จะยังไง เพราะเมืองนอกไม่ได้เป็นหลักสูตรของเภสัชกรแล้ว

ขอทำความเข้าใจในเรื่องหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต 6 ปี ก่อนนะครับ

สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม (Pharmaceutical care)

มุ่งไปที่การดูแลผู้ป่วย เรียน 6 ปี เป็นการเรียนในห้อง 5 ปี ในปีที่ 6 ก็ฝึกงาน จริง ๆ ก็มีการดูงาน ฝึกงานย่อยอยู่เรื่อย ๆ แหละ ปัจจุบันโรงพยาบาลส่วนใหญ่แล้วสมัครงานก็จะกำหนดคุณสมบัติว่าต้องจบสาขานี้ แถมสายนี้จบมาทำงานได้หลากหลายทั้งเภสัชกรโรงพยาบาล เภสัชกรร้านยา เภสัชกรผู้แทนยา (จะไปทำโรงงานยังได้เลย) พูดกันจริง ๆ ว่าเป็นที่ต้องการของตลาดสูงขึ้นเรื่อย ๆ คะแนสอบเข้าก็สูงขึ้น

โดยส่วนตัวมองว่าเรียนยาก อาจจะเป็นเพราะตนเองไม่ถนัดวิชาทางคลินิกเลยมองว่าวิชาด้า care เรียนยาก

สาขาวิชาเภสัชศาสตร์ หรือสาขาวิชาเทคโนโลยีเภสัชภัณฑ์ (Pharmaceutical sciences)

มุ่งไปที่การผลิต เรียน 6 ปี เรียนในช้นเรียน 5 ปี แล้วก็มีการทำโปรเจคพร้อมกับฝึกงานในชั้นปีที่ 6 ตรงนี้แหละที่เป็นประเด็นที่พูดถึงว่า ในสมัยเป็นหลักสูตร 5 ปี โปรเจคจะใช้เวลาทำ 3-5 เดือนก็เสร็จ แล้วก็ฝึกงาน 1 เดือน รวมแล้วก็ประมาณ 1 เทอม ก็เพียงพอ แต่พอปรับมาฝึกงานรวมโปรเจคเป็น 1 ปี อาจารย์ในคณะก็ตั้งคำถามว่าจะให้เด็กทำโปรเจคอะไรตั้งปีนึง โปรเจคใช้เวลานานขนาดนั้นเป็นโปรเจคของป.โท มากกว่าที่จะเป็นโปรเจคป.ตรี ถ้าต้องทำโปรเจค 1 ปี จริง ๆ เอาเวลาไปทำงานให้กับโรงงานดีกว่ามั้ย เงินเดือนก็ได้ ไม่ต้องจ่ายค่าเทอม

ที่สำคัญตอนนี้ยังไม่มีหลักสูตร Pharmacetical sciences แบบ 6 ปี ที่ใดเรียนจบมาเลย

เดี๋ยวรอพี่ที่ทำงานสายโรงงาน มาบอกดีกว่าว่า เรียน 5 ปี กับ 6 ปี สำหรับสายโรงงานต่างกันหรือไม่อย่างไร โดยส่วนตัวมองว่าไม่ต่าง เพราะว่ายังไงตอนทำงานก็ต้องมาเรื่มใหม่อยู่ดี ยังไม่ต้องคิดไกลเรื่องไปทำงานเมืองนอกหรือเรียนต่อเมืองนอก เพราะในระดับเมืองไทยหลักสูตร Pharmaceutical sciences 6ปี ยังมีปัญหาพอสมควร

โดยส่วนตัวมองว่าเรียนยาก อาจจะเป็นเพราะตนเองไม่ถนัดวิชาทางคลินิกเลยมองว่าวิชาด้า care เรียนยาก

ผมว่ามันไม่ได้ยากอะไรหรอกครับ ผมก็เรียนไม่เก่งและไม่ถนัดด้วยในสาย care แต่อาศัยความอึดครับ เพราะตอนฝึกงานมีเพื่อนที่เรียนเก่งแต่ไม่อึดมานั่งร้องไห้กันหลายคน เพราะว่า อาจารย์แหล่งฝึกหลายคนกระทำตัวไม่ค่อยเหมาะสม ทำให้นิสิตที่ไปฝึกหลายคนจิตตกไปตามๆๆกัน

คุณรู้ได้ยังไงล่ะว่า Pharm Sci ไม่ยาก จะบอกให้ว่าถ้าลงลึกจริงๆแล้ว หืดขึ้นครับ อาจารย์เองตอนนี้ยังต้องเรียนกันอย่างเร่งรีบตามกันไม่ทัน
ผมไม่รู้ว่าเขาจะสอนอะไรเหมือนกัน แต่บอกให้ว่าถ้ารู้ดีจริงๆและปฏิบัติงานได้อย่างที่โรงงานเค้าหวังก็ไม่ยากที่จะก้าวหน้าแบบโลดๆ

อ้อ ลืมไปว่า Pharm Sci ถ้าปริญญาระบุอย่างนั้นจริงๆจะไปทำงานที่ USA เป็นเภสัชกรไม่ได้นะครับ ต้อง Pharm D เท่านั้น นอกจากจะซี้ซั้วไปแบบไทยๆ ก็ยังงงๆ เหมือนกัน

zartingtong เขียน:คุณรู้ได้ยังไงล่ะว่า Pharm Sci ไม่ยาก จะบอกให้ว่าถ้าลงลึกจริงๆแล้ว หืดขึ้นครับ อาจารย์เองตอนนี้ยังต้องเรียนกันอย่างเร่งรีบตามกันไม่ทัน

ใครบอกว่า Pharmaceutical sciences ไม่ยากหรือครับ

zartingtong เขียน:

โดยส่วนตัวมองว่าเรียนยาก อาจจะเป็นเพราะตนเองไม่ถนัดวิชาทางคลินิกเลยมองว่าวิชาด้า care เรียนยาก

บอกว่า Pharmacectical care เรียนยาก ไม่ได้บอกว่า Pharmaceutical sciences เรียนง่าย อ่านดี ๆ ครับ ตัวหนังสือชัดเจนอยู่

แล้วใครไปว่าอะไรล่ะครับ ถ้าหนีจาก phar care แล้วจะเลือก phar sci แล้วคำตอบที่ให้ไปกระเทือนตรงไหนครับ? ให้คนอื่นอ่านก็ได้

zartingtong เขียน:แล้วใครไปว่าอะไรล่ะครับ ถ้าหนีจาก phar care แล้วจะเลือก phar sci แล้วคำตอบที่ให้ไปกระเทือนตรงไหนครับ? ให้คนอื่นอ่านก็ได้

คำตอบมันกระเทือนอยู่แล้ว เพราะในกระทู้คุยกัน 3 คน คนที่พูดเรื่องยากง่าย มีผมคนเดียว ถ้าตัวเองผิด จะยอมรับก็คงให้อภัยได้ อย่าเถ จนสีข้างถลอกขนาดนี้ จะทำอย่างไรดีครับ

อาการเก่ากำเริบ

แล้วใครกันละที่ copy ข้อความของผมมาก่อน อ่านที่ reply ที่ 7 นะ

ลองอ่านกันเองนะครับ ว่าใครเริ่มก่อน

ขอโทษนะ winwin ไม่มาม่าแล้วหละ

จำได้

ขอบคุณพี่ๆทั้งสามท่านมากครับที่ช่วยตอบ

ผมก็ขออนุญาตถามต่อนะครับ ถ้าผมจบ Pharm Sci แล้วเกิดอยากไปต่อเมืองนอกที่เป็น M.Sc, D.Sc มันจะมีปัญหาอะไรไหมครับ