smartss เขียน:นี่แหละที่หลายคนออกมาค้านอย่างไม่มีเหตุผลและออกมาแบบอ้างเหตุผลต่างๆ
1ไม่มีพรบ.แล้วฟ้อง หรือมีพรบ.จ่ายแล้วจะฟ้องต่อ ห้ามกันไม่ได้แต่กรณีผิดจริงศาลท่านจะลดหย่อนโทษให้ได้เมื่อมีการเยียวยาไปแล้ว และบางกรณีที่เยียวยาไปแล้วแต่ไม่เป็นความผิดของบุคลากรเป็นเหตุสุดวิสัยก็ไม่ได้อะไรอีกไม่สามารถอ้างได้ว่าการจ่ายแล้วถือเป็นการยอมรับผิด(อย่าไปดูถูกศาลท่าน)
ใช่ครับ ไม่มีใครดูถูกศาล ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครไปดูถูกศาล ดังนั้นทุกวันนี้คนที่ได้รับความเสียหายก็ฟ้องศาลได้อยู่แล้ว ศาลท่านยุติธรรมอยู่แล้ว แล้วจะมี พรบ.นี้มาเพื่ออะไร ถ้าคนที่ได้รับความเสียหายอยากได้การชดเชยจากความเสียหาย ผู้เสียหายก็ควรจะเป็นผู้จ่ายเงินเข้ากองทุนเพื่อประกันความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายในการรับบริการใช่หรือไม่
บุคคลากรทางการแพทย์เป็นผู้ที่ทำให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าวหรือไม่ หรือเกิดจากการไม่พร้อมของหน่วยงานที่บุคคลนั้นให้การบริการอยู่ ใครกันล่ะที่ต้องเป็นผู้จ่ายเงินดังกล่าวเข้ากองทุน
ถ้าผมต้องเป็นผู้จ่ายเงินดังกล่าวเข้ากองทุนแล้ว มันต้องทำให้เรื่องทุกอย่างจบ ไม่มีการฟ้องร้องต่อ กองทุนดังกล่าวต้องคุ้มครองความเสี่ยงที่เกิดขึ้นทั้งหมด (ในขณะที่ผู้มารับบริการที่เจ็บป่วย ไม่ว่าจากการไม่ดูแลตัวเองหรือเจ็บป่วยเพราะโรคอื่น ไม่ต้องจ่ายอะไรให้กองทุนนี้เลย คอยรับอย่างเดียว)
ถ้าผู้เสียหายไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ คุณก็ไปพึ่งศาลเอา เพราะศาลเค้ายุติธรรมอยู่แล้ว....
smartss เขียน: 2ไม่ไช่หมอหรือเภสัชหรือบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่จะต้องเสียเงิน จ่ายเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องการเสี่ยงไม่ไช่มีใบประกอบเสียทุกคน บางคนไม่ได้เกี่ยวไม่ได้ทำงานตรงๆหรือ พรบ.ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงก็ไม่ต้องจ่าย กรุณาอย่ามาเหมาเอามั่วๆ
3การเห็นด้วยกับพรบ.ไม่ได้เป็นการสมน้ำหน้าหมอกลับเห็นใจด้วยที่ต้องมาจ่ายอาจเพิ่มรายได้ให้วิชาชีพหมอเภสัชพยาบาลเป็นค่าเสี่ยง..
แต่สิทธิการได้รับการเยียวยาช่วยเหลือของคนทั้งประเทศมันยิ่งใหญ่กว่ากันมากอย่าลืมว่าเราหรือหมอเองก็ได้รับการคุ้มครองเมื่อเป็นผู้ป่วยซะเอง
เวลาผมเป็นผู้ป่วยเสียเอง ผมก็จะไม่เอาจากใครอย่างเดียวครับ ถ้าผมรู้ว่าผมจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ ผมก็ยอมที่จะจ่ายค่าประกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นครับ รูปแบบของประกันชีวิตก็มีเยอะแยะ ผมถึงเสนอให้มี พรบ.ประกันสุขภาพ ภาคบังคับ ที่ให้ประชาชนทุกคนต้องมีไงครับ