เคยวิเคราะห์กันไหมว่าทำไมผลการสอบใบประกอบถึงออกมาอย่างนี้

[LeMmOy]

โทษคนออกข้อสอบก็ไม่ถูกนะครับเพราะสิ่งที่เค้าเอามาออกก็ไม่ได้นอกเหนือจากสิ่งที่เราเรียนกันมาแล้ว

ผมไม่ได้ว่าอะไรใครนะ แต่ที่ผมอยากจะบอกก็คือลองนึกถึงเวลาเราเข้าห้องสอบสิ ถ้าเราเตรียมตัวมาดี
เวลาเราเจอข้อสอบ อย่างน้อยที่สุดถ้าข้อนั้นคิดไม่ออกก็จะรู้สึกคุ้นๆว่าเคยอ่านผ่านตามาแล้ว แต่เราดันนึกไม่ออกเอง

พอออกจากห้องสอบก็เห็นจับกลุ่มคุยกันหน้าห้องว่าข้อนั้นตอบอย่างงั้นข้อนี้ต้องตอบอย่างงี้
ส่วนใหญ่ผมก็เห็นวิเคราะห์กันได้ทั้งนั้นนะครับ
จริงไม๊ ?

จบจากไหนผมว่าไม่สำคัญหรอกครับ ไม่ว่าจุฬา หรือ หัวเฉียว หรือที่ไหนๆก็ตาม
จบมาก็ทำงานจ่ายยาเหมือนกัน ทักษะความสามารถก็พอๆกัน
ผมไม่เห็นว่าจะฉลาดแตกต่างกันตรงไหน

ที่อยากจะบอกกันจริงๆคือ ถ้าเตรียมตัวมาดี ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรนี่ครับ
วัดกันไปเลย แค่สอบเอง จะแค่ไหนกัน อย่างมากก็แค่ไม่ผ่านเอง
ไม่ผ่านก็อ่านใหม่ดิ พร้อมเมื่อไรค่อยมาสอบอีกที

อย่าเอาอะไรที่เราไม่สามารถควบคุมได้มาคิดให้ปวดกะบาล
ทำสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ให้เจ๋งที่สุดแค่นั้นพอ

[zartingtong]

สิ่งที่ต้องทำคือแก้ปัญหาครับว่าอยู่ที่ไหน และทุกมหาวิทยาลัยก็ควรจะแก้ปัญหา ไม่งั้นก็คงไม่สามารถตอบใครได้ว่ามาตรฐานการเรียนเภสัชของประเทศไทยคืออะไร?
ไม่ใช่ว่าให้ทั้งหมดสอบได้เยอะหรือให้ทั้งหมดสอบได้น้อยๆ แต่ว่าการกระจายตัวในทางสถิติสม่ำเสมอกันหรือเปล่า ถ้าไม่เกิดจากอะไร? หลักสูตร คนสอนก็คงต้องแก้ตรงนั้น หรือว่าข้อสอบก็ต้องแก้เหมือนกัน ไม่ใช่โทษใคร แต่คงไม่ใช่ปล่อยไว้เฉยๆยังไงก็อย่างนั้น ยังไงก็ต้อง validate แหละ
ถ้าถือว่าประชากรทั้งหมดคือนิสิตนักศึกษาเภสัช คงไม่ใช่อยู่สถาบันนั้นแล้วจะเตรียมตัวสอบดีกว่าสถาบันอื่น เพราะก็คงจะมีทั้งคนขยันคนขี้เกียจคนฉลาดคนไม่ฉลาดกระจายตัวพอๆกันหรือใกล้เคียงกัน

ลองให้อาจารย์ด้านสถิติมาดูสิครับอาจจะให้คำตอบดีกว่าเภสัชกรที่ไม่ค่อยจะเรียนด้านนี้ ถ้าเค้าว่า OK ก็ OK

[Pharma_Name]

ขอแลกเปลี่ยนบ้างนะครับ ในฐานะอยู่ ม. เอกชน มีสิ่งที่แตกต่างจากม.รัฐบาลในตอนสอบก็คือ ถ้าเป็น ม.รัฐฯ เด็กที่สอบใบประกอบวิชาชีพ จะสอบที่สถาบันที่ตัวเองเรียน ในขณะที่เด็กม.เอกชน เวลาสอบจะต้องไปสอบ ณ สนามสอบอื่นๆ ทีเด็กเองก็ไม่คุ้นเคย เครื่องมือที่ใช้สอบกับที่เรียนก็ต่างกัน รวมทั้งความตื่นเต้นและไม่คุ้นกับสถานที่สอบก็เป็นปัญหาหนึ่งเหมือนกัน อย่างปีที่ผ่านมา เด็กบางคน ต้องไปสอบถึงเชียงใหม่ อุบล มศว. ศิลปากร นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่มีความต่างกับม.รัฐฯ

สนามสอบเวลาสอบใบประกอบวิชาชพเภสัชกรรม ส่วนใหญ่จะใช้สนามสอบของสถาบันตัวเองสอบ ซึ่งมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะได้สอบที่สถาบันตัวเอง ยกเว้น อยู่ 3 แห่ง คือ ม.มหาสารคาม (ใช้สนามสอบของม.ขอนแก่น) ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ม.รังสิต แต่ผลสอบของม.มหาสารคาม ออกมาเกินร้อยละ 60 ทุกปี ดังนั้นจึงคิดว่าการใช้สนามสอบที่ไม่ใช่สถาบันที่ตนเรียนไม่น่าจะมีผล แต่ก็ไม่รู้ว่าปัจจุบันทาง มมส. ใช้สนามสอบของที่ไหนนครับ

แต่ถ้าจะให้ดีแบบยุติธรรมสุด ๆ ขอเสนอว่าอยากให้สอบที่สนามกลาง กรรมการ น่าจะยุติธรรมที่สุด

[narongbanthi202]

เภสัชกรก็ต้องอยู่ภายใต้กฎของเมนเดล ผู้เก่งและแข็งแรงจะดำรงค์เผ่าพันธุ์ต่อไป

[zartingtong]

เภสัชกรก็ต้องอยู่ภายใต้กฎของเมนเดล ผู้เก่งและแข็งแรงจะดำรงค์เผ่าพันธุ์ต่อไป

กฎของการอยู่รอดไม่ใช่ผู้ที่เก่งและแข็งแรงนะครับ ถ้าเคยดูรายการที่มีการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่จะพบว่าผู้ที่อยู่รอดคือเผ่าพันธุ์ที่ปรับตัวเองตามสถานการณ์ได้ต่างหาก

เก่งๆและแข็งแรงอย่าง Gorgon ไดโนเสาร์ตายเรียบ(นี่พูดความจริงไม่ได้พูดถึงเรื่องของเภสัช)

[narongbanthi202]

เภสัชกรก็ต้องอยู่ภายใต้กฎของเมนเดล ผู้เก่งและแข็งแรงจะดำรงค์เผ่าพันธุ์ต่อไป

กฎของการอยู่รอดไม่ใช่ผู้ที่เก่งและแข็งแรงนะครับ ถ้าเคยดูรายการที่มีการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่จะพบว่าผู้ที่อยู่รอดคือเผ่าพันธุ์ที่ปรับตัวเองตามสถานการณ์ได้ต่างหาก

เก่งๆและแข็งแรงอย่าง Gorgon ไดโนเสาร์ตายเรียบ(นี่พูดความจริงไม่ได้พูดถึงเรื่องของเภสัช)

จะอย่างไรก็ตามควรจะมีแนวทางปฎิบัติให้ตรงประเด็น เช่น ถ้าสอบสายบริบาลก็ไปทำข้อสอบสายบริบาล สายวิทย์ก็ทำข้อสอบสายวิทย์ฯ สายการตลาดก็ไปทำข้อสอบสายการตลาด หรือไม่ต้องแบ่งจะสอบรวมเหมือนเดิม ช่วยส่งข้อมูลมาเสริมด้วย

[ShioMi]

ผมคิดว่าประเด็นอยู่ที่ตัวผู้สอบมากกว่าครับ

วิชาทางเภสัชศาสตร์ถึงแม้ไม่ยากนัก แต่ก็ไม่สบายซักทีเดียว หากไม่ตั้งใจหรือมีความรู้ไม่เพียงพอก็จมน้ำได้ง่ายๆ

หากได้คัดคุณภาพนักศึกษามากกว่านี้ ผมว่า % สอบผ่านน่าจะสูงขึ้นนะ

[GPE]

นอกจาก นักศึกษาแล้ว ครูผู้สอนก็มีผลน่ะครับ

[Mheeflash]

เมล็ดพันธุ์ที่ดีทำให้ผลผลิตดี แต่ ดิน แดด ฟ้าฝน ไม่เป็นใจต้นไม้ก็ตายได้นะครับ และถึงจะไม่ตายแต่อาจจะไม่ออกลูกก็ได้นะครับ
ถ้าเปรียบเทียบเภสัชกรที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกสภาเภสัชกรรมเหมือนกับปลูกต้นไม้ให้ออกผล แน่นอนว่าก่อนปลูกก็ได้คัดเลือกเมล็ดพันธุ์แล้ว และ 5-6 ปีที่ปลูกพืชพันธุ์นี้ก็เห็นว่าฝนตกไม่ทั่วฟ้า ดินแต่ละที่อุดมสมบูรณ์ไม่เท่ากัน พบว่า สวนนาย ก. ได้ผลผลิตต่อไร่เยอะจริงๆ แต่สวนนาย ข.ค่อนข้างจะเฉาตายไปก่อนออกผลด้วยซ้ำ แถมออกผลก็น้อยเก็บไปขายก็ไม่ได้ราคา

อาจจะเปรียบเทียบอย่างมีอคติไปหน่อย แต่ก็น่าจะทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
ส่วนตัวผมเองไม่ได้สงสัยในเรื่องเมล็ดพันธุ์แม้แต่น้อย เพราะเราคัดมาเองกับมือ??? แต่ถ้าพืชผลไม่ออกตามวัตถุประสงค์แล้วยังสงสัยว่าเมล็ดพันธุ์ไม่ดี ผมว่าลองมาคิดกันเล่นๆ ว่าวิธีการคัดเมล็ดพันธุ์อาจไม่ดีก็ได้ (1) หรือถ้าไปดูปัจจัยอื่นๆ บ้างเช่น ดินเค็มหรือไม่ (2) แดดแรงไปหรือน้อยไป (3) อากาศสกปรก (4) ฝนน้อย (5) แมลงศัตรูพืชรบกวน (6) ปุ๋ยปลอม! (7) การดูแลเอาใจใส่แบบทิ้งๆ ขว้างๆ ให้เผชิญโลกเอาเอง (8) ฯลฯ

ปัจจัยมากมายขนาดนี้จะเริ่มแก้จากที่ไหนดี? หรือจะยังกล่าวโทษความบกพร่องของเมล็ดพันธุ์ที่เราคัดมาเองกับมือ!

[somasaka100]

[quote="Mheeflash"]เมล็ดพันธุ์ที่ดีทำให้ผลผลิตดี แต่ ดิน แดด ฟ้าฝน ไม่เป็นใจต้นไม้ก็ตายได้นะครับ และถึงจะไม่ตายแต่อาจจะไม่ออกลูกก็ได้นะครับ
ถ้าเปรียบเทียบเภสัชกรที่ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกสภาเภสัชกรรมเหมือนกับปลูกต้นไม้ให้ออกผล แน่นอนว่าก่อนปลูกก็ได้คัดเลือกเมล็ดพันธุ์แล้ว และ 5-6 ปีที่ปลูกพืชพันธุ์นี้ก็เห็นว่าฝนตกไม่ทั่วฟ้า ดินแต่ละที่อุดมสมบูรณ์ไม่เท่ากัน พบว่า สวนนาย ก. ได้ผลผลิตต่อไร่เยอะจริงๆ แต่สวนนาย ข.ค่อนข้างจะเฉาตายไปก่อนออกผลด้วยซ้ำ แถมออกผลก็น้อยเก็บไปขายก็ไม่ได้ราคา

อาจจะเปรียบเทียบอย่างมีอคติไปหน่อย แต่ก็น่าจะทำให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
ส่วนตัวผมเองไม่ได้สงสัยในเรื่องเมล็ดพันธุ์แม้แต่น้อย เพราะเราคัดมาเองกับมือ??? แต่ถ้าพืชผลไม่ออกตามวัตถุประสงค์แล้วยังสงสัยว่าเมล็ดพันธุ์ไม่ดี ผมว่าลองมาคิดกันเล่นๆ ว่าวิธีการคัดเมล็ดพันธุ์อาจไม่ดีก็ได้ (1) หรือถ้าไปดูปัจจัยอื่นๆ บ้างเช่น ดินเค็มหรือไม่ (2) แดดแรงไปหรือน้อยไป (3) อากาศสกปรก (4) ฝนน้อย (5) แมลงศัตรูพืชรบกวน (6) ปุ๋ยปลอม! (7) การดูแลเอาใจใส่แบบทิ้งๆ ขว้างๆ ให้เผชิญโลกเอาเอง (8) ฯลฯ

ปัจจัยมากมายขนาดนี้จะเริ่มแก้จากที่ไหนดี? หรือจะยังกล่าวโทษความบกพร่องของเมล็ดพันธุ์ที่เราคัดมาเองกับมือ![/

เห็นด้วย 1เสียงครับ

[somasaka100]

เปรียบเทียบ รถยนต์ คนละค่าย...มั้ง

[joeinoui]

no comment

[API]

ลองเอาเด็ก กทม.ไปสอบต่างจังหวัดดูไหมล่ะ แล้วดูว่าจะได้ออกมาเปอร์เซนต์เท่าไหร่....